ค้นหาจากชื่อหัวข้อเท่านั้น
หน้าหลัก > ระบบความปลอดภัยของยานพาหนะของคุณ > เข็มขัดนิรภัย > ระบบรั้งของเข็มขัดนิรภัย

ระบบรั้งของเข็มขัดนิรภัย

คำเตือน
  • เพื่อการป้องกันสูงสุดของระบบรั้ง เข็มขัดนิรภัยจะต้องใช้งานอยู่เสมอในขณะที่ยานพาหนะเคลื่อนที่

  • เข็มขัดนิรภัยจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อพนักพิงอยู่ในตำแหน่งตั้งตรง

  • เด็กอายุ 13 ปี และน้อยกว่านั้นต้องยึดให้อยู่กับที่นั่งด้านหลังอย่างเหมาะสม อย่าให้เด็กนั่งอยู่ที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าเด็ดขาด หากเด็กอายุมากกว่า 13 ปี ต้องนั่งด้านหน้า เขา หรือ เธอ ต้องคาดเข็มขัดอย่างเหมาะสม และที่นั่งควรขยับให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้

  • ห้ามคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ใต้แขนหรือเอาไว้ข้างหลังคุณ การติดตั้งเข็มขัดคาดไหล่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงหากเกิดอุบัติเหตุได้ เข็มขัดคาดไหล่ควรอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางเหนือไหล่พาดผ่านไหปลาร้าของคุณ

  • ห้ามคาดเข็มขัดนิรภัยไว้บนวัตถุเปราะบาง หากมีการหยุดกะทันหันหรือกระแทก เข็มขัดนิรภัยอาจทำให้วัตถุนั้นเสียหายได้

  • หลีกเลี่ยงการคาดเข็มขัดนิรภัยที่บิดงอ เข็มขัดนิรภัยที่บิดงอไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เมื่อมีการชนกระแทก อาจบาดคุณเสียเองได้ ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าเข็มขัดนิรภัยไม่บิดพันกัน

  • ระมัดระวังอย่าทำให้สายรัดเข็มขัดหรืออุปกรณ์เสียหาย หากสายรัดเข็มขัดนิรภัยหรืออุปกรณ์เสียหาย ให้เปลี่ยนทันที

คำเตือน

กฎการออกแบบของออสเตรเลีย

เข็มขัดนิรภัยถูกออกแบบมาเพื่อรองรับโครงสร้างกระดูกของร่างกาย และควรคาดให้พาดไปตามแนวด้านหน้าของกระดูกเชิงกรานหรือบนกระดูกเชิงกราน หน้าอก และหัวไหล่ เมื่อทำได้ ต้องหลีกเลี่ยงการคาดเข็มขัดนิรภัยในส่วนหน้าตักให้สัมผัสกับส่วนช่องท้อง

เข็มขัดนิรภัยควรปรับให้แน่นที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยมีความสะดวกสบายเพียงพอ เพื่อให้ปกป้องได้ตามที่ถูกออกแบบมา

สายที่หลวมจะลดการป้องกันที่มอบให้แก่ผู้คาดลงอย่างมาก

ควรใช้ความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนสายรัดกับสารขัด น้ำมันหรือสารเคมี โดยเฉพาะกรดแบตเตอรี่

สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้น้ำสบู่อ่อน ควรเปลี่ยนเข็มขัดหากที่รัดลุ่ย ปนเปื้อน หรือเสียหาย การเปลี่ยนเข็มขัดนิรภัยทั้งชุดเป็นเรื่องสำคัญหลังจากเสื่อมโทรมลงในการกระแทกอย่างรุนแรงถึงแม้จะไม่มีร่องรอยความเสียหายให้เห็น ไม่ควรขาดเข็มขัดขณะบิดเกลียว ชุดเข็มขัดนิรภัยแต่ละชุดต้องใช้งานโดยผู้โดยสารคนเดียวเท่านั้น การคาดเข็มขัดพาดผ่านเด็กที่อุ้มไว้บนตักผู้โดยสารเป็นเรื่องอันตราย

คำเตือน

กฎการออกแบบของออสเตรเลีย

  • ห้ามมีการปรับเปลี่ยนหรือแต่งเติมจากผู้ใช้เพื่อป้องกันอุปกรณ์ปรับเข็มขัดนิรภัยไม่ให้ทำงานเพื่อคลายความหย่อน หรือป้องกันไม่ให้ปรับเข็มขัดนิรภัยได้เพื่อคลายความหย่อน

  • เมื่อคุณคาดเข็มขัด ระมัดระวังอย่ายึดเข้าไปในหัวเข็มขัดของที่นั่งอื่น เป็นเรื่องอันตรายอย่างมากและอาจไม่ได้รับการปกป้องจากเข็มขัดนิรภัยอย่างเหมาะสม

  • อย่าคลายเข็มขัดและอย่าคาดและคลายซ้ำไปซ้ำมาระหว่างขับขี่ การทำเช่นนี้อาจก่อให้เกิดการสูญเสียการควบคุม และอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิต การบาดเจ็บร้ายแรง หรือทรัพย์สินเสียหายได้

  • เมื่อคาดเข็มขัด ทำให้แน่ใจว่าเข็มขัดนิรภัยไม่คาดผ่านวัตถุที่แข็งและแตกได้ง่าย

  • ทำให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดอยู่ในหัวเข็มขัด เข็มขัดนิรภัยอาจไม่คาดอย่างแน่นหนา

คำเตือนเข็มขัดนิรภัย

ไฟคำเตือนเข็มขัดนิรภัยและเสียงเตือนจะทำงานภายใต้เงื่อนไขต่อไปนี้

เข็มขัดนิรภัยด้านหน้า

  • ไม่ว่าจะคาดเข็มขัดด้านหน้าหรือไม่ ไฟเตือนจะปรากฏขึ้นเป็นเวลา 3 ~ 6 วินาทีโดยประมาณในแต่ละครั้งที่คุณเปิดสวิตช์จุดระเบิดเครื่องยนต์หรือกดปุ่มเปิด ENGINE START/STOP หากไม่ได้คาดเข็มขัดที่นั่งผู้ขับขี่ เสียงเตือนจะส่งเสียงเป็นเวลา 6 วินาทีและไฟคำเตือนจะติดอยู่จนกว่าจะคาดเข็มขัดนิรภัย

  • หากคุณขับขี่โดยไม่คาดเข็มขัดที่นั่งผู้ขับขี่ เมื่อคุณขับที่ความเร็วต่ำกว่า 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือหยุดรถ ไฟเตือนจะปรากฏขึ้น เมื่อคุณขับขี่ที่ 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือมากกว่านั้น ไฟเตือนจะกระพริบและเสียงเตือนจะดังขึ้นประมาณ 100 วินาที

  • เมื่อไม่ได้คาดเข็มขัดที่นั่งผู้ขับขี่ขณะขับขี่ ไฟเตือนจะปรากฏขึ้นเมื่อความเร็วต่ำกว่า 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง) เมื่อความเร็วอยู่ที่ 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือมากกว่านั้น ไฟเตือนจะกระพริบและเสียงเตือนจะดังขึ้นประมาณ 100 วินาที

คำเตือน

การขับขี่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลต่อระบบเตือนเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าโดยไม่ตั้งใจได้ เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ขับขี่จะแนะนำให้ผู้โดยสารนั่งอย่างเหมาะสมตามที่แนะนำไว้ในคู่มือนี้

ประกาศ
  • คุณสามารถหาไฟคำเตือนเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารได้ในชุดอุปกรณ์

  • ถึงเมื่อที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าจะไม่มีผู้นั่ง ไฟเตือนเข็มขัดนิรภัยจะกะพริบหรือปรากฏเป็นเวลาประมาณ 6 วินาที

  • คำเตือนเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารด้านหน้าอาจทำงานเมื่อมีสัมภาระวางอยู่

คำเตือนเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารด้านหลัง (ถ้ามี)

7/8 ที่นั่ง

* ไม่มีที่นั่งตรงกลางตรงที่นั่งด้านหลังแถวที่สองสำหรับยานพาหนะ 7 ที่นั่ง

* ไฟคำเตือนเข็มขัดนิรภัยของที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังจะอยู่ที่ไฟแผนที่

สำหรับอิสราเอล - 7 ที่นั่ง
  • เพื่อเป็นการเตือนผู้โดยสารด้านหลัง ไฟเตือนเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารด้านหลังจะปรากฏขึ้นประมาณ 6 วินาทีในแต่ละครั้งที่คุณเปิดสวิตช์กุญแจหรือกดสวิตช์ START STOP ENGINE ไปที่ตําแหน่ง ON ไม่ว่าจะคาดเข็มขัดนิรภัยหรือไม่

  • หากเข็มขัดนิรภัยไม่ถูกคาดเมื่อเปิดสวิตช์กุญแจหรือกดสวิตช์ START STOP ENGINE ไปที่ตําแหน่ง ON ไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยจะปรากฏขึ้นประมาณ 70 วินาที

  • หากคุณเริ่มขับขี่โดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัยหรือปลดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่ด้วยความเร็วน้อยกว่า 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง) ไฟเตือนที่เกี่ยวข้องจะปรากฏขึ้นประมาณ 70 วินาที

  • หากคุณปลดเข็มขัดนิรภัยออกในขณะที่ขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือมากกว่านั้น เสียงเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยจะดังขึ้นประมาณ 35 วินาที และไฟเตือนที่เกี่ยวข้องจะกะพริบ

  • หากประตูหลังถูกเปิดหรือถูกปิดขณะที่ขับขี่ด้วยความเร็วน้อยกว่า 10 กม./ชม. (6 ไมล์ต่อชั่วโมง) ไฟเตือนและเสียงเตือนจะไม่ทำงานแม้ว่าจะขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง)

สำหรับออสเตรเลีย / นิวซีแลนด์ - 8 ที่นั่ง (สำหรับที่นั่งแถวที่ 2 ด้านซ้ายและด้านขวา)
  • เพื่อเป็นการเตือนผู้โดยสารด้านหลัง ไฟเตือนเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารด้านหลังจะปรากฏขึ้นประมาณ 6 วินาทีในแต่ละครั้งที่คุณเปิดสวิตช์กุญแจหรือกดสวิตช์ START STOP ENGINE ไปที่ตําแหน่ง ON ไม่ว่าจะคาดเข็มขัดนิรภัยหรือไม่

  • หากคุณเริ่มขับขี่โดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัยหรือปลดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่ด้วยความเร็วน้อยกว่า 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง) ไฟเตือนที่เกี่ยวข้องจะปรากฏขึ้นต่อไปจนกว่าคุณจะคาดเข็มขัดนิรภัย

  • หากคุณยังคงขับขี่ต่อไปโดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัยหรือปลดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง)หรือมากกว่านั้น เสียงเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยจะดังขึ้นประมาณ 35 วินาทีและไฟเตือนที่เกี่ยวข้องจะกะพริบ

  • เมื่อเข็มขัดนิรภัยถูกปลดออกขณะขับขี่ ไฟเตือนจะปรากฏขึ้น หากขับขี่ด้วยความเร็วน้อยกว่า 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง)

  • หากความเร็วอยู่ที่ 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือมากกว่านั้น ไฟเตือนจะกระพริบและเสียงเตือนจะดังขึ้นประมาณ 35 วินาที

สำหรับออสเตรเลีย / นิวซีแลนด์ - 8 ที่นั่ง (สำหรับที่นั่งแถวที่ 2 ตรงกลางและที่นั่งแถวที่ 3 ทั้งหมด)
  • เพื่อเป็นการเตือนผู้โดยสารด้านหลัง ไฟเตือนเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารด้านหลังจะปรากฏขึ้นประมาณ 6 วินาทีในแต่ละครั้งที่คุณเปิดสวิตช์กุญแจหรือกดสวิตช์ START STOP ENGINE ไปที่ตําแหน่ง ON ไม่ว่าจะคาดเข็มขัดนิรภัยหรือไม่

  • หากเข็มขัดนิรภัยไม่ถูกคาดเมื่อเปิดสวิตช์กุญแจหรือกดสวิตช์ START STOP ENGINE ไปที่ตําแหน่ง ON ไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยจะปรากฏขึ้นประมาณ 70 วินาที

  • หากคุณเริ่มขับขี่โดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัยหรือปลดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่ด้วยความเร็วน้อยกว่า 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง) ไฟเตือนที่เกี่ยวข้องจะปรากฏขึ้นประมาณ 70 วินาที

  • หากคุณปลดเข็มขัดนิรภัยออกในขณะที่ขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือมากกว่านั้น เสียงเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยจะดังขึ้นประมาณ 35 วินาที และไฟเตือนที่เกี่ยวข้องจะกะพริบ

  • หากประตูหลังถูกเปิดหรือถูกปิดขณะที่ขับขี่ด้วยความเร็วน้อยกว่า 10 กม./ชม. (6 ไมล์ต่อชั่วโมง) ไฟเตือนและเสียงเตือนจะไม่ทำงานแม้ว่าจะขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 20 กม./ชม. (12 ไมล์ต่อชั่วโมง)

เข็มขัดนิรภัย - ระบบล็อก 3 จุดพร้อมตัวล็อกฉุกเฉินด้านคนขับ

คาดเข็มขัดนิรภัย

  • ในการคาดเข็มขัดนิรภัย ให้ดึงเข็มขัดออกมาจากอุปกรณ์ดึงกลับ แล้วใส่หัวเข็มขัดโลหะ (1) ในปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัย (2) จะมีเสียง "คลิก" เมื่อหัวเข็มขัดถูกล็อกในปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัย

เข็มขัดนิรภัยจะปรับตามความยาวที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติหลังจากคุณปรับเข็มขัดนิรภัยส่วนที่คาดบนเอวด้วยตนเองเพื่อให้พอดีกับสะโพกของคุณแล้วเท่านั้น หากคุณโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ เข็มขัดนิรภัยจะยืดออกและคุณจะสามารถเคลื่อนที่ไปรอบๆ ได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม หากมีการหยุดกะทันหันหรือกระทบกระเทือน สายเข็มขัดนิรภัยจะล็อกกลับเข้าที่ เข็มขัดจะล็อกเช่นกันหากคุณโน้มไปข้างหน้าไวเกินไป

ประกาศ

หากคุณไม่สามารถดึงเข็มขัดนิรภัยออกจากอุปกรณ์ดึงกลับได้ ให้ดึงเข็มขัดออกโดยแรงแล้วปล่อย จากนั้นคุณจะสามารถดึงเข็มขัดนิรภัยออกมาได้โดยง่าย

คำเตือน

ควรวางส่วนเข็มขัดพาดตักในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้และให้พาดผ่านสะโพก ไม่ใช่ที่เอว หากคาดเข็มขัดส่วนพาดตักไว้สูงเกินไป อาจเพิ่มโอกาสในการบาดเจ็บกรณีที่เกิดการชนได้ แขนทั้งสองข้างไม่ควรอยู่ด้านใต้หรือเหนือเข็มขัดนิรภัย ควรให้แขนข้างหนึ่งอยู่ด้านบน และอีกข้างอยู่ด้านใต้เข็มขัดนิรภัย ดังภาพ

ห้ามคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ใต้วงแขนใกล้ประตู

เข็มขัดนิรภัยควรถูกล็อกในปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยบนเบาะนั่งแต่ละอันเพื่อให้รัดแน่นได้อย่างเหมาะสม

ที่นั่งแถวที่ 2

* ที่นั่งตรงกลางแถวที่ 2 จะมีเฉพาะในรถ 8 ที่นั่งเท่านั้น

แถวที่ 3 (7, 8 ที่นั่ง)
แถวที่ 4 (11 ที่นั่ง)
  1. ปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลังขวา

  2. ปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลังตรงกลาง

  3. ปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลังซ้าย

ระวัง

อย่าฝืนล็อกหัวเข็มขัดนิรภัยของที่นั่งด้านซ้ายหรือขวา ที่ปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยของที่นั่งตรงกลาง อาจทำให้ปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยของที่นั่งตรงกลางชำรุด และทำให้ไม่สามารถล็อกหัวเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกต้องได้ในอนาคต

เมื่อใช้เข็มขัดนิรภัยสำหรับที่นั่งด้านหลังตรงกลาง จะต้องใช้กับปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยที่มีสัญลักษณ์ว่า "CENTER"

คำเตือน

ก่อนคาดเข็มขัดนิรภัยของที่นั่งด้านหลัง ขอให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหัวเข็มขัดตรงกับปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัย การฝืนล็อกหัวเข็มขัดนิรภัยของที่นั่งด้านซ้ายหรือขวาเข้ากับปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยของที่นั่งตรงกลาง อาจทำให้ล็อกได้อย่างไม่เหมาะสมและไม่สามารถช่วยปกป้องในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้

การปลดล็อกเข็มขัดนิรภัย

  • กดปุ่มปลดล็อกเข็มขัด (1) ที่ปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัย

เมื่อถูกปลดล็อกแล้ว เข็มขัดนิรภัยควรถูกดึงกลับเข้าไปในอุปกรณ์ดึงกลับโดยอัตโนมัติ

หากไม่เป็นเช่นนั้น ให้ตรวจสอบสายเข็มขัดนิรภัยว่าบิดพันกันหรือไม่ก่อนทำซ้ำอีกครั้ง

ปรับความสูงของสายคาดไหล่

คุณสามารถปรับความสูงของตัวปรับเข็มขัดคาดไหล่ให้อยู่ในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งจาก 4 ตำแหน่งนี้ เพื่อความสบายและความปลอดภัยสูงสุด

ความสูงของเข็มขัดที่ปรับไม่ควรอยู่ใกล้บริเวณลำคอมากจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยลดลงได้ ส่วนคาดไหล่ควรปรับให้พาดผ่านหน้าอกและอยู่กึ่งกลางไหล่ใกล้ประตู และไม่ใช่ส่วนคอ

ในการปรับความสูงของตัวปรับเข็มขัดนิรภัย ให้ลดหรือยกตัวปรับความสูงให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

  • หากต้องการยกตัวปรับความสูงขึ้น ให้ดึงขึ้น (1)
  • หากต้องการลดระดับลง ให้กดลง (3) ขณะที่กดปุ่มปรับความสูง (2)

ปล่อยปุ่มเพื่อล็อกตัวปรับเข็มขัดนิรภัยให้อยู่ในตำแหน่ง ลองเลื่อนตัวปรับความสูงเพื่อให้แน่ใจว่าล็อกเข้าที่แล้ว

การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงหากเกิดอุบัติเหตุได้

คำเตือน
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวปรับเข็มขัดไหล่ล็อกเข้าที่ในตำแหน่งความสูงที่เหมาะสม จะต้องไม่ให้สายคาดไหล่พาดบนหน้าหรือบริเวณลำคอเด็ดขาด

  • หากไม่เปลี่ยนเข็มขัดนิรภัยหลังจากเกิดอุบัติเหตุ อาจทำให้เข็มขัดนิรภัยที่ชำรุดนั้นไม่สามารถปกป้องท่านได้ในกรณีที่เกิดการชนกันอีกครั้งซึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ ควรเปลี่ยนเข็มขัดนิรภัยทันทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุ

ระวัง

อย่าพับส่วนด้านซ้ายของพนักพิงที่นั่งด้านหลังลงเมื่อคาดเข็มขัดนิรภัยตรงกลางเบาะหลัง จะต้องปลดเข็มขัดนิรภัยตรงกลางที่นั่งด้านหลังเสมอ ก่อนพับส่วนด้านซ้ายของพนักพิงที่นั่งด้านหลังลง หากคาดเข็มขัดนิรภัยตรงกลางด้านหลังในขณะที่พับส่วนด้านซ้ายของพนักพิงเบาะหลังลง อาจส่งผลให้ส่วนบนของพนักพิงเสียหายเป็นเหตุให้พนักพิงถูกล็อกอยู่ในตำแหน่งพับลง

เข็มขัดนิรภัยล็อก 3 จุดที่นั่งตรงกลางด้านหลัง (ที่นั่งตรงกลางแถวที่ 3 สำหรับรถ 7, 8 ที่นั่ง) (ถ้ามี)

เพื่อคาดเข็มขัดนิรภัยที่นั่งตรงกลางด้านหลัง

  1. ดึงแผ่นแท็บเล็กๆออกจากรูด้านบนฝาครอบส่วนประกอบเข็มขัดนิรภัย (1) แล้วค่อยๆ ดึงเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวดึงกลับ

  2. ดึงแผ่นแท็บออกจากที่ยึดเข็มขัดนิรภัย (2)

  3. ใส่แผ่นแท็บขนาดเล็ก (A) นั้นเข้าไปในส่วนปลายเปิดของขั้วต่อตัวปรับ (C) จนกระทั่งได้ยินเสียง "คลิก" ซึ่งแสดงว่าสลักถูกล็อกแล้ว ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าเข็มขัดไม่บิดพันกัน

  4. ดึงแผ่นแท็บ (B) ออกมาแล้วใส่แผ่นแท็บ (B) ในส่วนปลายเปิดของปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัย (D) จนกระทั่งได้ยินเสียง "คลิก" ซึ่งแสดงว่าสลักถูกล็อกแล้ว ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าเข็มขัดไม่บิดพันกัน

เมื่อใช้เข็มขัดนิรภัยสำหรับที่นั่งด้านหลังตรงกลาง จะต้องใช้กับปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยที่มีสัญลักษณ์ว่า "CENTER"

จะมีเสียง "คลิก" เมื่อหัวเข็มขัดถูกล็อกในปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัย เข็มขัดนิรภัยจะปรับตามความยาวที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติหลังจากคุณปรับเข็มขัดนิรภัยส่วนที่คาดบนเอวเองเพื่อให้พอดีกับสะโพกของคุณแล้วเท่านั้น หากคุณโน้มตัวไปด้านหน้าอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ เข็มขัดจะยืดออกให้คุณสามารถขยับตัวไปโดยรอบได้ อย่างไรก็ตาม หากมีการหยุดกะทันหันหรือกระทบกระเทือน สายเข็มขัดนิรภัยจะจะล็อกกลับเข้าที่ เข็มขัดจะล็อกเช่นกันหากคุณโน้มไปข้างหน้าไวเกินไป

คำเตือน

เมื่อใช้เข็มขัดนิรภัยสำหรับที่นั่งด้านหลังตรงกลาง จะต้องล็อกแผ่นแท็บและปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยทั้งหมด หากมีแผ่นแท็บหรือปลอกล็อกใดที่ไม่ถูกล็อก จะเพิ่มความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุได้

เพื่อปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยที่นั่งตรงกลางด้านหลัง

  1. กดปุ่มปลดล็อกบนปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัย (D) และถอดแผ่นลิ้น (B) ออกจากปลอกล็อก (D)

  2. ในการดึงเข็มขัดนิรภัยตรงกลางด้านหลังกลับ ให้สอดแผ่นลิ้นหรือห่วงนำสายคาดขนาดเล็กที่คล้ายกันเข้าไปในรูปล่อยสาย (C) ดึงสายรัดเข็มขัดนิรภัย (A) ขึ้น และปล่อยให้สายรัดถูกดึงกลับโดยอัตโนมัติ

  3. ใส่แผ่นแท็บเข้าไปในที่ยึด (1) ในเข็มขัดนิรภัย จากนั้นสอดส่วนแผ่นแท็บเล็กๆ เข้าไปในรูด้านบนฝาครอบชุดเข็มขัดนิรภัย

เข็มขัดนิรภัยตรงกลางด้านหลังแบบล็อก 2 จุด (ที่นั่งตรงกลางแถวที่ 2, 3 และ 4 สำหรับรถแบบ 11 ที่นั่ง) (ถ้ามี)

เพื่อคาดเข็มขัดนิรภัยที่นั่งตรงกลางด้านหลัง

  1. ในการคาดเข็มขัดนิรภัยแบบล็อก 2 จุด ให้ใส่ส่วนหัวเข็มขัดโลหะ (1) ในปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัย (2) จะมีเสียง "คลิก" เมื่อหัวเข็มขัดถูกล็อกในปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัย

  2. ตรวจเช็คให้แน่ใจว่าเข็มขัดถูกล็อกอย่างถูกต้องและสายไม่บิดพันกัน เข็มขัดนิรภัยแบบล็อก 2 จุดนั้น จะต้องปรับความยาวให้พอดีกับร่างกายด้วยตนเอง

  3. คาดเข็มขัดนิรภัยแล้วดึงปลายที่หลวมเพื่อให้สายกระชับแน่น

    [A]: ทำให้สั้นลง, [B]: ทำให้ยาวขึ้น

เข็มขัดนิรภัยควรถูกคาดในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดเหนือสะโพก ไม่ใช่บริเวณเอว หากเข็มขัดสูงเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้

เมื่อใช้เข็มขัดนิรภัยสำหรับที่นั่งด้านหลังตรงกลาง จะต้องใช้กับปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยที่มีสัญลักษณ์ว่า "CENTER"

เพื่อปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยที่นั่งตรงกลางด้านหลัง

เมื่อต้องการปลดล็อกเข็มขัดนิรภัย ให้กดปุ่มปลดล็อกเข็มขัด (1) ที่ปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัย

การจัดเก็บเข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลัง

ที่นั่งแถวที่ 4 (11 ที่นั่ง)
ที่นั่งตรงกลางแถวที่ 2, 3 (11 ที่นั่ง)
ที่นั่งแถวที่ 3 (7, 8 ที่นั่ง)

ปลอกล็อกเข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลังสามารถถูกจัดเก็บในกระเป๋าระหว่างเบาะนั่งและพนักพิงด้านหลังเมื่อไม่ใช้งาน

เข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลังสามารถถูกจัดเก็บพร้อมกับแผ่นแท็บและม้วนสายในกระเป๋าระหว่างเบาะนั่งและพนักพิงด้านหลัง

แถวที่ 4 ที่นั่งด้านข้าง (11 ที่นั่ง)
แถวที่ 3 ที่นั่งตรงกลาง (7, 8 ที่นั่ง)
แถวที่ 3 ที่นั่งด้านข้าง (7, 8 ที่นั่ง)

การร้อยสายเข็มขัดนิรภัยผ่านแถบนำเข็มขัดนิรภัยด้านหลังจะช่วยป้องกันไม่ให้สายเข็มขัดนิรภัยติดอยู่ด้านหลังหรือใต้เบาะนั่ง หลังจากคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วให้กระชับสายให้แน่นด้วยการดึงสายขึ้น

ระวัง

เมื่อใช้เข็มขัดนิรภัย ให้ใช้หลังจากดึงออกจากแถบนำแล้ว หากดึงเข็มขัดนิรภัยขณะที่เข็มขัดถูกเก็บอยู่ในแถบนำ อาจทำให้แถบนำสายและ/หรือตัวสายชำรุดเสียหายได้

เข็มขัดนิรภัยแบบปรับความตึง

รถของคุณมีเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า

การดึงกลับอัตโนมัติมีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่าเข็มขัดนิรภัยจะพอดีกับร่างกายของผู้โดยสารหากเกิดการชนกัน

เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติอาจทำงานเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่มีการชนกันรุนแรงพอสมควร

เมื่อรถหยุดกะทันหัน หรือหากผู้โดยสารพยายามเอนไปข้างหน้าเร็วเกินไป ตัวดึงเข็มขัดนิรภัยจะถูกดึงกลับเพื่อล็อกเข้าที่ ในการชนด้านหน้าบางครั้ง ระบบปรับความตึงอัตโนมัติจะเปิดใช้งานและดึงเข็มขัดนิรภัยให้กระชับกับร่างกายของผู้โดยสารมากขึ้น

หากระบบสัมผัสได้ถึงความตึงที่มากเกินไปบนเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับหรือผู้โดยสารเมื่อระบบปรับความตึงอัตโนมัติทำงาน ตัวจำกัดค่าความตึงภายในตัวปรับความตึงเข็มขัดนิรภัยจะคลายแรงบางส่วนบนเข็มขัดนิรภัยของที่นั่งดังกล่าว (ถ้ามีติดตั้ง)

คำเตือน

เพื่อความปลอดภัยของท่าน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายรัดเข็มขัดต้องไม่หลวมหรือบิดพันกัน และขอให้นั่งบนที่นั่งของคุณอย่างเหมาะสมเสมอ

ประกาศ

หากติดตั้งเซ็นเซอร์จับความเอียงรถ

ระบบดึงกลับอัตโนมัติจะถูกเปิดใช้งานไม่เพียงแต่ในการชนด้านหน้า แต่ยังรวมถึงการชนด้านข้างหรือการพลิกคว่ำอีกด้วย หากรถมีการติดตั้งถุงลมด้านข้างหรือม่านถุงลมนิรภัยไว้

ประกาศ

หากไม่มีการติดตั้งเซ็นเซอร์จับความเอียงรถ

ระบบดึงกลับอัตโนมัติจะถูกเปิดใช้งานไม่เพียงแต่ในการชนด้านหน้า แต่ยังรวมถึงการชนด้านข้างอีกด้วย หากรถมีการติดตั้งถุงลมด้านข้างหรือม่านถุงลมนิรภัยไว้

ระบบปรับความตึงเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติประกอบด้วยส่วนประกอบหลักดังต่อไปนี้ ตำแหน่งของมันแสดงอยู่ในภาพประกอบ:

  1. แสงเตือนของถุงลมนิรภัย SRS

  2. ชุดประกอบตัวดึงกลับอัตโนมัติด้านหน้า

  3. โมดูลควบคุม SRS

คำเตือน

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติ:

  1. เข็มขัดนิรภัยจะต้องทำงานอย่างถูกต้องและปรับให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม โปรดอ่านและปฏิบัติตามข้อมูลสำคัญและข้อควรระวังเกี่ยวกับคุณลักษณะด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารในรถของคุณ รวมทั้งเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัย ซึ่งให้ไว้ในคู่มือนี้ทั้งหมด

  2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณและผู้โดยสารสวมเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกต้องเสมอ

ประกาศ
  • เมื่อเปิดใช้งานเข็มขัดนิรภัยแบบปรับความตึงอัตโนมัติ อาจมีเสียงดังและอาจมองเห็นฝุ่นละเอียดซึ่งอาจดูเหมือนเป็นควันในห้องโดยสารได้ เป็นสภาวะการทำงานปกติและไม่เป็นอันตราย

  • แม้ว่าจะไม่เป็นอันตราย แต่ฝุ่นละเอียดอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนังและไม่ควรสูดหายใจเข้าไปเป็นเวลานาน ให้ล้างบริเวณผิวหนังถูกสัมผัสทั้งหมดให้สะอาดหลังจากเกิดอุบัติเหตุซึ่งมีการเปิดใช้งานเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติ

  • เนื่องจากเซ็นเซอร์ที่เปิดใช้งานถุงลมนิรภัย SRS เชื่อมต่อกับระบบเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติ ไฟเตือนถุงลมนิรภัย SRS บนแผงหน้าปัดจะปรากฏขึ้นประมาณ 3 ~ 6 วินาทีหลังจากเปิดสวิตช์กุญแจหรือกดสวิตช์ START STOP ENGINE ไปยังตําแหน่ง ON หลังจากนั้นไฟควรดับลง

ระวัง

หากระบบเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติไม่ได้ทำงานอย่างถูกต้อง ไฟเตือนถุงลมนิรภัย SRS จะปรากฏขึ้นแม้ว่าถุงลมนิรภัย SRS จะไม่ได้ทำงานผิดปกติ ไฟเตือนถุงลมนิรภัย SRS จะไม่ปรากฏขึ้นเมื่อเปิดสวิตช์กุญแจหรือกดสวิตช์ START STOP ENGINE ไปยังตําแหน่ง ON หรือหากไฟยังคงติดอยู่หลังจากปรากฏแล้วประมาณ 3 ~ 6 วินาที หรือไฟจะปรากฏขึ้นขณะที่ขับขี่ ให้นำรถเข้ารับการตรวจสอบระบบโดยช่างผู้ชำนาญ Kia แนะนำให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายและพาร์ทเนอร์ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตของ Kia

คำเตือน
  • ระบบเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้เพียง 1 ครั้ง หลังจากใช้งานแล้ว ควรจะต้องเปลี่ยนระบบเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติ ควรเปลี่ยนเข็มขัดนิรภัยทุกประเภทและทุกที่นั่งหลังจากเกิดการชนเนื่องจากอาจมีการสึกหรอได้

  • กลไกการประกอบเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติจะร้อนขึ้นในระหว่างที่ถูกเปิดใช้งาน ห้ามสัมผัสส่วนประกอบเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติเป็นเวลาหลายนาทีหลังจากที่ถูกเปิดใช้งาน

  • ไม่ควรพยายามตรวจสอบหรือเปลี่ยนเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติด้วยตนเอง ให้นำรถเข้ารับการตรวจสอบระบบโดยช่างผู้ชำนาญ Kia แนะนำให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายและพาร์ทเนอร์ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตของ Kia

  • อย่าพยายามบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมระบบเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติไม่ว่าในลักษณะใดๆ

  • การจัดการอย่างไม่เหมาะสมต่อชุดเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติ และการไม่ปฏิบัติตามคำเตือนที่จะต้องไม่ชน ดัดแปลง ตรวจสอบ เปลี่ยน บำรุงรักษา หรือซ่อมแซมส่วนประกอบเข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงตึงอัตโนมัติ อาจนำไปสู่การทำงานที่ไม่เหมาะสมหรือการถูดเปิดใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจรวมทั้งการบาดเจ็บรุนแรงได้

  • คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอเมื่อขับรถหรือขี่ยานยนต์

  • หากต้องทิ้งรถหรือเข็มขัดนิรภัยแบบปรับความตึงอัตโนมัติ โปรดติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญ Kia แนะนำให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายและพาร์ทเนอร์ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตของ Kia

ระวัง

การทำงานของตัวถังบริเวณด้านหน้าของรถอาจทำให้ระบบเข็มขัดนิรภัยแบบปรับความตึงอัตโนมัติเสียหายได้ จึงควรให้นำรถเข้ารับการตรวจเช็คจากศูนย์ให้บริการแบบมืออาชีพ Kia แนะนำให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายและพาร์ทเนอร์ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตของ Kia